EN14 Time Trip : Zodiac Theme
เมื่อสมาชิกผู้เป็นตัวแทนของแต่ละราศี ต้องเข้ามาแข่งขันเกมไหวพริบ โดยมีเป้าหมายคือเดินทางข้ามเวลาไปทำสิ่งที่อยากทำ พวกเขาต้องชิงไหวชิงพริบ และทำทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่การหักหลังเพื่อนร่วมทีม!
ผมมีบางเรื่องที่ทำผิดพลาดไปในอดีต และมันเป็นเรื่องที่ทำให้ผมนึกเสียใจมาจนถึงตอนนี้
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมจะทำทุกอย่างให้มันดีกว่านี้
ผมจะไปที่นั่น ไปดูแลคนที่ผมควรดูแลที่สุด
ผมจะไม่ปล่อยให้เค้าต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวจนวินาทีสุดท้ายของชีวิตแบบนั้น
ถ้าผมย้อนกลับไปได้... แต่มันก็แค่ถ้า...
ผมเดินไปอย่างไร้ซึ่งความหวัง ดวงตาเหม่อมองไปยังท้องฟ้าเบื้องบน
ฟิ้ว~
แต่แล้ว...กระดาษแผ่นหนึ่งก็ปลิวมาตกตรงหน้าผม
ผมมองมันอยู่นานก่อนจะเก็บมันขึ้นมา สายตาเพ่งมองข้อความที่ปรากฏอยู่บนนั้น
คุณเคยมีความคิดอยากจะเดินทางไปในโลกของอนาคตไหม?
ไม่ผมไม่เคยคิด... ผมเกือบจะทิ้งกระดาษแผ่นนั้นลงพื้น หากแต่สายตาเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง
แล้วมีบางครั้งไหมที่อยากจะย้อนกลับไปในอดีต
เรื่องราวที่ผิดพลาด บางอย่างแม้จะโหยหาแทบตายก็ไม่มีโอกาสย้อนกลับไปทำได้
อา... ผมมีเรื่องแบบนั้นอยู่เต็มหัวเลย มันเยอะมากจริงๆ
เราสามารถทำให้ความปรารถนาเหล่านั้นของคุณเป็นจริงได้
เพียงแค่กรอกใบสมัครแล้วส่งมาที่ บริษัท Time Trip จำกัดมหาชน
สิบสองผู้โชคดีเท่านั้นที่จะได้ร่วมเดินทางไปกับเราในวันที่ 3 เดือน 3 เวลา 00 : 00 น.
หากคุณเชื่อมั่น... ปาฏิหาริย์มีให้คุณเสมอ J”
ผมมองกระดาษแผ่นนั้นอย่างครุ่นคิด
มือของผมหยิบปากกาออกมาจากกระเป๋าแล้วกรอกข้อมูลลงไป
และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมได้ค้นพบอะไรบางอย่าง... ในวันนี้...
- โนแอล –
ภายในชานชะลารถไฟคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา แม้จะเป็นเวลาเกือบๆ เที่ยงคืน แต่ผู้คนก็ยังคงแน่นหนา... มากกว่าทุกวัน เพราะวันนี้การเดินทางด้วยรถไฟขบวนพิเศษอย่าง Time Trip ที่หนึ่งปีจะจัดเพียงครั้งเดียว และค่ำคืนนี้จะมีการถ่ายทอดสด ‘การแข่งขัน’ เพื่อค้นหาคนที่เป็นที่สุด ที่จะได้เดินทางไปข้ามเวลาเพื่อทำบางอย่างตามที่เคยฝันไว้
หญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ในส่วนของผู้โดยสารที่รอการเดินทาง เธออยู่ในชุดที่มะมัดทะแมง ด้านในเป็นชุดกางเกงที่ถูกคลุมทับด้วยเสื้อคลุมยาวสีเทา เรือนผมยาวสีน้ำตาลเข้ากันได้ดีกับนัยน์ตาสีเพทายที่กำลังกวาดมองไปรอบๆ ด้วยใบหน้าเรียบเฉย แน่นอนว่าเธอเป็นหนึ่งในผู้ร่วมเดินทางเหมือนกัน แต่เธอก็ยังคงนั่งรออย่างไม่เร่งรีบ ที่ยังไม่ไปลงทะเบียนเพราะเหตุผลง่ายๆ
เธอไม่อยากเป็นที่สนใจ
แน่นอนว่าการแข่งขันนี้เป็นที่จับตามองจากบุคคลทั่วไปมาก รายชื่อผู้เข้าร่วมเดินทางจะไม่ถูกเปิดเผยจนกว่าไปลงทะเบียน และพอถึงตอนนั้นตัวเธอและคนอื่นๆ จะถูกเสนอรายชื่อเข้าไปสู่วงสนทนาที่จะวิจารณ์ทุกอย่างที่เกี่ยวกับผู้เข้าแข่งขันราวกับว่ารู้จักกันมาเป็นชาติ เผลอๆ อาจจะมีการตั้งวงพนันก็ว่าได้
ถ้าไม่เป็นเพราะมีบางอย่างที่อยากจะทำ เธอก็คงไม่มาเข้าร่วมการเดินทางในครั้งนี้หรอก
เธอกระชับดาบที่เหน็บอยู่ตรงเอวเพื่อความมั่นใจ ก่อนจะยกมุมปากขึ้นยิ้ม
“อีกสิบนาที” ริมฝีปากบางพึมพำในขณะที่มองเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เดินเข้ามานั่งตรงที่นั่งข้างๆ
เด็กคนนั้นอายุราวๆ สิบห้าปี เขาสะพายกระเป๋าเป้ใบโต ใบหน้าที่ไร้เดียงสานั่นบ่งบอกว่าไม่คุ้นชินกับสถานที่ที่มีคนมากมายแบบนี้ เด็กนั่นกวาดมองไปรอบๆ จนสายตามาหยุดที่เธอก็เผยยิ้มสดใสออกมาราวกับเด็กๆ ออกมา
“พี่พอรู้ไหมครับว่ารถไฟขบวน Time Trip เขาลงทะเบียนกันตรงไหน นี่ผมเดินหามาตั้งนานแล้วยังไม่เจอเลย” เด็กคนนั้นถาม เธอมองก่อนจะขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“มาร่วม Time Trip?”
เด็กเกินไปรึเปล่า นั่นคือสิ่งที่เธอคิด
แต่เอาเข้าจริงๆ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ย่อมมีความปรารถนาด้วยกันทั้งนั้น ใช่ไหมล่ะ
“ครับ” เด็กหนุ่มพยักหน้าหงึกหงัก “อ้อ ผมลืมแนะนำตัวไป ผมชื่อโนแอลนะ แล้วพี่ล่ะครับชื่ออะไร ผมจะได้เรียกถูก”
“ซีเร” เธอตอบสั้นๆ
โนแอลพยักหน้า “ว่าแต่พี่ถามแบบนี้ ไม่ใช่ว่าพี่ก็เข้าร่วมทริปนี้ด้วยเหรอครับ”
“อือ ก็คงงั้นแหละ” ซีเรพยักหน้าแบบขอไปทีพลางเงยหน้ามองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนัง เมื่อเห็นว่าเหลือเวลาอีกไม่มากก็ลุกขึ้นยืน “จะไปลงทะเบียนใช่ไหม ตามมาสิ”
ว่าจบหญิงสาวก็ออกเดินไปยังชานชลาที่ 5 ซึ่งเป็นสถานที่ลงทะเบียน โดยมีโนแอลวิ่งแบกกระเป๋าเป้ตามมาติดๆ
เมื่อมาถึงที่ลงทะเบียนก็เป็นไปตามที่คาด ผู้คนมากมายเฝ้ารอการปรากฏตัวของผู้ร่วมเดินทางในค่ำคืนนี้ บางทีเธอก็สงสัยว่าบริษัท Time Trip นี่เป็นบริษัทอะไรกันแน่ โลกที่เธออยู่แม้จะเต็มไปด้วยวิทยาการต่างๆ มากมาย แต่ก็ไม่ใช่โลกที่จะทำอะไรที่เหนือธรรมชาติ เช่น การย้อนอดีตหรือท่องอนาคต แต่บริษัทนี้ทำได้ แล้วก็ทำมันทุกปีซะด้วย
ซีเรเดินแหวกฝูงชนที่พร้อมใจกันหลีกทางให้เธอเข้าไปยังโต๊ะลงทะเบียน ไม่สนใจสายตาของคนรอบข้างที่มองมาอย่างสังเกตเลยแม้แต่น้อย
“มาลงทะเบียนใช่ไหมครับ แสกนลายนิ้วมือตรงนี้เลย” ชายหนุ่มที่คาดว่าเป็นพนักงานของบริษัทผายมือไปยังเครื่องแสกนลายนิ้วมือที่ตั้งอยู่ข้างๆ ซีเรวางนิ้วลงไปอย่างไม่ลังเล
ติ๊ด
“เรียบร้อยครับ คุณซีเร อยู่ทีมที่ C เชิญขึ้นรถไฟโบกี้ที่ 3 ได้เลยครับ”
ซีเรมองเห็นเลข 3 ที่เขียนอยู่ด้านข้างขบวนก็กระชับดาบเพื่อความมั่นใจ แล้วสาวเท้าเดินไป เธอเบื่อการเป็นที่สนใจท่ามกลางฝูงชนและอยากจะไปให้พ้นๆ จากตรงนี้ซักที
“เดี๋ยวสิ พี่ซีเรๆ รอผมลงทะเบียนก่อน” โนแอลที่พึ่งจะวิ่งมาถึงร้องเรียกเธอไว้ แต่พนักงานที่ยืนอยู่ตรงโต๊ะลงทะเบียนก็ขัดขึ้นว่า
“รอไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกครับ ยังไงก็ไม่ได้ขึ้นรถไฟโบกี้เดียวกันอยู่ดี”
“หมายความว่าไงครับ?” โนแอลขมวดคิ้ว
“การแข่งขันในปีนี้เป็น Zodiac Theme อย่างที่แจ้งไปครับ และจะมีการแบ่งเป็นสามทีม A B C ซึ่งจะคอยช่วยเหลือกัน แต่ท้ายที่สุดก็จะมีผู้ชนะเพียงคนเดียวครับ” พนักงานคนนั้นยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ โนแอลมองรอยยิ้มนั้นอย่างเก็บงำความคิด ในขณะที่ซีเรเพียงแค่กระตุกยิ้มแล้วหันหลังเดินขึ้นบันไดไป
“แบ่งเป็นทีมเหรอครับเนี่ย คงไม่ได้มีอะไรแปลกๆ มาให้เล่นหรอกใช่ไหม” โนแอลดัก แต่พนักงานคนนั้นก็ทำเพียงแค่ยักไหล่แล้วผายมือไปยังเครื่องแสกนลายนิ้วมือ
“ลงทะเบียนครับ”
“พี่จะไม่บอกอะไรผมหน่อยเหรอ แค่เห็นพี่ซีเรผมก็ไม่อยากจะแข่งด้วยแล้วนะ” เด็กหนุ่มว่าพลางวางนิ้วลงบนเครื่องแสกน
“คนเก่งที่สุดก็ใช่ว่าจะเป็นผู้ชนะเสมอไป ข้อเสียเปรียบบางอย่างถ้ารู้จักใช้มันอาจจะเป็นจุดแข็งของเราก็ได้นะครับ”
ติ๊ด
“เรียบร้อยครับ คุณโนแอลอยู่ทีม A ขอให้โชคดีครับ” พนักงานว่าพลางผายมือไปยังโบกี้ขบวนที่หนึ่ง โนแอลตะเบะมือเป็นเชิงรับทราบ
“ขอบคุณครับ”
พนักงานหนุ่มมองแผ่นหลังโนแอลที่พึ่งจะเดินขึ้นบันไดไป เขาทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ พลางมองดูรายชื่อของคนที่ยังไม่ได้มาลงทะเบียน จากนั้นก็ยกวิทยุสื่อสารขึ้นมาก่อนจะติดต่อไปยังประชาสัมพันธ์
“คุณประชาสัมพันธ์ครับ รบกวนช่วยประกาศหาผู้ร่วมเดินทางขบวน Time Trip ให้ทีนะครับ”
“รับทราบค่ะ” พนักงานหนุ่มวางวิทยุสื่อสารลงข้างตัวก่อนจะเผยยิ้มเจ้าเล่ห์
“เหลือสองคน แถมยังเป็นคนที่เก่งพอจะพลิกเกมได้อีก ท่าทางคืนนี้คงมีอะไรสนุกๆ ให้เล่นแน่ๆ” เขาว่า... พลางค่อยๆ ลุกขึ้นยืนเมื่อรับรู้ว่ามีใครบางคนกำลังมาที่นี่
~ประกาศ ขณะนี้รถไฟขบวน Time Trip ใกล้จะถึงเวลาออกเดินทางแล้ว ขอให้ผู้โดยสารที่จะเข้าร่วมขบวนมารายงานตัวที่ชานชลา 5 ก่อนเวลา 00 : 00 น. ค่ะ~
~ประกาศ ขณะนี้รถไฟขบวน Time Trip ใกล้จะถึงเวลาออกเดินทางแล้ว ขอให้ผู้โดยสารที่จะเข้าร่วมขบวนมารายงานตัวที่ชานชลา 5 ก่อนเวลา 00 : 00 น. ค่ะ~
“เฮ้ย! นี่จะรีบไปตามควายที่ไหน รอกันด้วยสิเฟรเซอร์” เสียงเรียกดังมาจากชายหนุ่มผมสีน้ำตาลที่เดินตามชายหนุ่มอีกคนที่ถูกเรียกว่าเฟรเซอร์ แต่แม้จะเรียกดังจนคนแทบจะหันกันทั้งชานละชา เจ้าของชื่อที่ว่าก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงซักที เขายังคงก้าวไปข้างหน้าด้วยจังหวะสม่ำเสมอเหมือนเคย
คนเดินตามเกาผมสีน้ำตาลของตัวเองก่อนจะเร่งฝีเท้าจนเดินมาทันคนที่อยู่ข้างหน้า
“ความไวของนายหายไปนะไพมอน” เฟรเซอร์หันมาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น “หรือไม่งั้นก็แกล้งช้า?”
“อะไรของนายเนี่ย ฉันจะแกล้งช้าไปเพื่อ”
“ทำให้ฉันคิดว่านายอ่อนไง”
อะไรเนี่ย รู้ทันด้วยแฮะ
ไพมอนเกาหัวน้อยๆ อันที่จริงเขาก็แกล้งช้าจริงๆ นั่นแหละ คนจะแข่งกันทั้งทีใครจะเปิดเผยตัวให้คนอื่นเดาจุดอ่อนจุดแข็งได้ง่ายๆ ล่ะ โดยเฉพาะเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันมานานนับปีอย่างคนข้างๆ
“โอเคๆ” เจ้าของชื่อไพมอนยักไหล่ “ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่ความจริงก็ไม่ต้องรีบขนาดนี้ก็ได้ป่ะครับ ขบวนมันไม่ทิ้งเราหรอก”
เฟรเซอร์ยักไหล่
แต่ก็ยังคงก้าวเท้าด้วยจังหวะเท่าเดิม
พอมาถึงชานชลา 5 ซึ่งเป็นสถานที่ลงทะเบียน เขาก็เดินมาฝ่าฝูงชนเข้ามายังโต๊ะที่มีพนักงานหนุ่มยืนอยู่ พลางคิดอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมคนต้องมามุงกันขนาดนั้น คือไม่หลับไม่นอนกันรึไง ถึงได้มาปักหลักรอดูการแข่งขันอะไรที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองแบบนี้
... แต่ก็นั่นแหละ เขาได้แค่คิด คิดแล้วก็สงสัยเงียบๆ
“เชิญแสนนลายนิ้วมือครับ” พนักงานหนุ่มพูดตามสเต็ปเดิมเป๊ะ เขาผายมือไปยังเครื่องแสกน และเฟรเซอร์ก็เป็นอีกคนที่วางนิ้วลงบนเครื่องแสกนนั้นอย่างไม่ลังเล
ติ๊ด
“ยืนยันตัวตนเรียบร้อยครับ คุณเฟรเซอร์อยู่ทีม A เชิญขึ้นรถไฟได้เลยครับ”
เฟรเซอร์พยักหน้าก่อนจะเดินไปตามที่พนักงานบอก
“มีการแบ่งทีมแบบนี้ เราอยู่คนละทีมกันแหงๆ” ไพมอนที่เดินตามมาทักขึ้น “ถ้างั้นก็ท้าไว้ตั้งแต่ตรงนี้เลยไหม ถ้าเจอกันแล้วฉันไม่ออมมือให้อย่าหาว่าใจร้ายก็แล้วกัน”
เฟรเซอร์หัวเราะในลำคอ
“ก็รอเวลานั้นอยู่” ว่าจบเขาก็เดินล้วงกระเป๋าขึ้นไปในโบกี้ที่ 1 ไพมอนมองแผ่นหลังนั้นก่อนจะเผยยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเดินไปยังโต๊ะลงทะเบียน
“แสกนตรงนี้ใช่ไหม” เขาชี้ไปที่เครื่องแสกน
“ครับ”
ติ๊ด
“ลงทะเบียนเรียบร้อย คุณไพมอน ทีม C ครับ”
“อยู่คนละทีมจริงๆ ด้วย” ไพมอนยักไหล่ “ฉันจะขึ้นรถไฟละ นายมีอะไรจะบอกฉันไหม”
พนักงานหัวเราะน้อยๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “เจอกันครับ J”
“หะ พูดอะไรของนายเนี่ย ไปดีกว่า โบกี้นี้ใช่ไหม”
พอพนักงานหนุ่มพยักหน้า ไพมอนก็หันหลังเดินไปยังโบกี้ของทีมตัวเองด้วยความงุนงง หลังจากที่สมาชิก ‘เกือบ’ ทุกคนขึ้นไปยังรถไฟแล้ว พนักงานหนุ่มก็หันไปมองยังจอคอมพิวเตอร์เบื้องหน้า... เพื่อคุยกับปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกฝังไว้ในนั้น
“ไอ ฝากที่เหลือด้วยนะ”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวไอจะจัดการให้”
“ดีมาก” ว่าจบร่างกายของพนักงานคนนั้นก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป จากชายหนุ่มหน้าตาธรรมดา กลายเป็นชายหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลา ผมสีทองนั้นปลิวสะบัดเบาๆ หลังจากที่ทำการ ‘กลับร่างเดิม’ เสร็จสิ้น
แน่นอนว่าทุกคนที่มาเชียร์ต่างเห็นเหตุการณ์นั้น พนักงานหนุ่มหันไปโบกมือให้ทุกคนก่อนจะโปรยยิ้มอบอุ่น
“เกมแบบนี้ถ้าไม่มีสปายมันจะไปสนุกอะไรจริงไหมครับ” ว่าจบเจ้าตัวก็วางนิ้วลงบนเครื่องแสกนลายนิ้วมือ
ติ๊ด
“ผู้ร่วมเดินทางคนสุดท้าย เรลาเจ ทีม B รายงานตัวเรียบร้อย!”
ผู้แต่ง : Pacemaker
ตอนที่ | ชื่อตอน | วันที่ลง |
1 | ก่อนออกเดินทาง | 12 ก.พ. 59 |
2 | ก่อนจะเริ่มล่า | 09 มี.ค. 59 |
3 | ก่อนสิงโตจะคำราม | 15 มี.ค. 59 |
4 | ก่อนออกจากการแข่งขัน | 24 มี.ค. 59 |
5 | ก่อนใครบางคนจะกลับมา | 31 มี.ค. 59 |
ข้อเสียเปรียบของเรื่องนี้นะครับ คือเรื่องนี้มีตัวละครเยอะ และเป็นธีมการต่อสู้หักเหลี่ยม
ดังนั้นความจริงแล้วต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างเยอะทีเดียว ในการปูพื้นตัวละครแต่ละตัว หรือการพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกฎ/ระบบในการต่อสู้
ซึ่งพอเป็นการประกวดที่จำกัดมาแค่ 5 ตอน มันทำอย่างที่ว่ามาไม่ได้
จุดที่ต้องชมเชยเลยนะครับ คือบทบรรยายและไดอะล็อกมีความมันส์อะไรบางอย่าง
กระชับและมีพลังดี
การสะกดก็เช็กมาอย่างละเอียด หาคำผิดไม่ค่อยเจอเลย : )
ดาวิษ ชาญชัยวานิช